ชนะครั้งที่ ๑ ของพระสัมมาสัมพุชัยทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะพญามาร)
โอกาสที่หาได้ยากที่สุดในการสร้างบารมีของสรรพสัตว์ทั้งหลาย คือ โอกาสที่ได้อัตภาพเป็นมนุษย์ แม้หมู่สัตว์เหล่าอื่นอีกเป็นจำนวนมาก ล้วน
อนาคามีโลกุตรภูมิ ภูมิของผู้ที่จะไม่กลับมาเกิดในกามภพอีก
ผู้ที่บรรลุธรรมเข้าถึงสภาวะความเป็นพระอนาคามีแล้ว หลังจากละโลกแล้ว จะบังเกิดในพรหมชั้นสุทธาวาส อันเป็นที่บังเกิดของบุคคลผู้เข้าถึงภาวะความเป็นพระอนาคามี
อย่าไปยึดมั่นถือมั่น
คำถาม : มีคุณโยมท่านหนึ่งถามมาว่าพระพุทธจ้าสอนว่าคนเราไม่ควรยึดมั่นถือมั่นแล้วทำไมพระสงฆ์ท่านจึงมีข้อปฏิบัติเยอะจังครับ
ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 12
เรื่องราวของนางทาสและลูกที่ได้ช่วยกันจัดแจงถวายภัตตาหารด้วย ความเคารพอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังได้ถวายของของตนที่มีอยู่เล็กๆ น้อยๆ ด้วยความเพลิดเพลินใจเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ของจะเล็กน้อย แต่ศรัทธาของนางนั้นเปี่ยมล้น อานิสงส์แห่งการบริจาคทานอันเล็กน้อย แต่มากล้นไปด้วยศรัทธาอันบริสุทธิ์ในครั้งนั้นนั่นเอง จึงทำให้นางได้มาบันเทิงอยู่ ณ วิมานที่รุ่งเรืองอันปรากฏต่อสายพระเนตรอยู่ในขณะนี้
เจริญพุทธานุสติ
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นพระอรหันต์ ผู้ตรัสรู้แล้วเองโดยชอบ พระองค์นั้น
พุทธปาฏิหาริย์ ๓,๕๐๐ อย่าง
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายมีประมาณเท่าใด ไม่มีเท้าก็ดี ๒ เท้าก็ดี ๔ เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี มีรูปก็ดี ไม่มีรูปก็ดี มีสัญญาก็ดี ไม่มีสัญญาก็ดี มีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า บัณฑิตกล่าวว่าเป็นยอดของสัตว์เหล่านั้น
พระอัญญาโกณฑัญญะ ผู้รัตตัญญู (๑)
ภิกษุผู้สันโดษ ย่อมเป็นผู้อยู่เป็นสุขในทิศทั้ง ๔ และเป็นผู้ไม่หงุดหงิด สันโดษด้วยปัจจัยตามมีตามได้ ครอบงำอันตรายทั้งหลาย ไม่หวาดเสียว เทียวไปคนเดียวดังนอแรด
เทพบุตรมาร (๓)
ชนเหล่าใดจักสำรวมจิตนี้ ซึ่งไปได้ไกล เที่ยวไปโดดเดี่ยว ไม่มีรูปร่าง มีถ้ำเป็นที่อยู่อาศัย ชนเหล่านั้น จักพ้นจากบ่วงแห่งมารได้
คำว่า "ความสุขที่แท้จริง"
พอนั่งนิ่งไปสักพัก ความว่างก็เกิดขึ้น เหมือนไม่มีตัวลูกอยู่ในโลก อยู่ๆก็มีแสงเกิดขึ้น ช่วงแรกๆเป็นแสงใสๆลูกก็ไม่ได้สนใจ พอหยุดไปเรื่อยๆ แสงก็ค่อยๆสว่างขึ้น สว่างขึ้นเรื่อยๆ สว่างขึ้น ชัด สว่างมาก สว่างเหมือนตอนกลางวันเลยค่ะ เป็นแสงที่นวลตา เหมือนแสงนีออน ใสๆ เย็นๆ ดูไปเรื่อยๆแล้วก็เห็นเศียรพระพุทธรูปค่อยๆผุดขึ้นมากลางตัว
ผู้มีราตรีเดียวเจริญ
พึงทำความเพียรเสียในวันนี้แหละ ใครเล่าจะรู้ว่า ความตายจะมีในวันพรุ่ง เพราะว่าความผัดเพี้ยนกับมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่ ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย พระมุนีผู้สงบย่อมเรียกบุคคลผู้มีปกติอยู่อย่างนี้ มีความเพียร ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันและกลางคืน นั้นว่าผู้มีราตรีเดียวเจริญ